คนจัดฟันต้องอ่าน! คำแนะนำหลังปรับลวดจัดฟัน

เมื่อจัดฟันแล้ว สิ่งหนึ่งที่คนจัดฟันต้องเจอทุกเดือนก็คือพบคุณหมอ และอีกอย่างหนึ่งก็คือการ “ปรับลวดจัดฟัน” ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของการจัดฟัน แน่นอนว่าถ้ามีการปรับลวดจัดฟัน มักจะมีอาการที่พบเจอกันบ่อยๆ ได้ดังนี้

อาการเจ็บ ปวดตึง  เสียวฟัน  ในช่วง 5 – 7 วันแรก หรือมากกว่านั้น เพราะฟันมีการเคลื่อนตัว ควรเลือกรับประทานอาหารอ่อน ที่ไม่ต้องใช้แรงบดเคี้ยวเยอะ เพื่อให้อาการปวดฟันได้หายเร็วขึ้น

ซึ่งในครั้งแรกที่ติดเครื่องมือคุณหมอจะไม่เจาะจงในการดึงฟันมากนัก เพราะต้องการให้คนไข้ได้ปรับตัวกับเครื่องมือให้ได้ก่อนแล้วจึงค่อยๆ ปรับเครื่องมือและดึงฟันในเดือนต่อไป

 

อาการแสบกระพุ้งแก้ม  เป็นแผลจากร้อนใน  เกิดจากการระคายเคืองในช่องปากเพราะมีวัสดุแปลกปลอมในปาก ทำให้เกิดแผลร้อนใน หรือเป็นแผลที่กระพุ้งแก้มได้ง่าย เพราะลวดจัดฟันและแบร็คเก็ตมีการเสียดสีกับกระพุ้งแก้มตลอดเวลา สามารถลดการระคายเคืองโดยการใช้ขี้ผึ้งที่ทางคลินิกได้ให้ไปทำการปั้นเป็นก้อนเล็กๆเพื่อปิดตรงบริเวณลวดที่ทำให้ระคายเคือง หรือเป็นแผล  แล้วควรแจ้งคุณหมอเพื่อให้ทำการปรับแก้ไขให้ หากเจ็บหรือปวดในช่องปากมากๆ สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้

อาการฟันโยก เป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้หลังการปรับเครื่องมือ โดยจะเป็นอยู่ประมาณ 5-7 วันเท่านั้น แต่ถ้าสังเกตเห็นว่า ฟันโยกมากผิดปกติ ให้รีบกลับมาพบคุณหมอทันที

 

วิธีช่วยบรรเทาอาการต่างๆ หลังปรับลวดจัดฟัน

– ไม่ควรทานอาหารที่แข็งมาก หรือ กัดของแข็ง เช่น น้ำแข็ง เป็นต้น เพื่อลดการออกแรงที่ฟัน

 

บ้วนน้ำเกลือ สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดได้  เช่นลดอาการปวดฟัน เสียวฟัน และเหงือกอักเสบ เพราะสรรพคุณของเกลือสามารถช่วยลดอาการอักเสบและบรรเทาอาการปวดได้

บ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากและใช้ไหมขัดฟัน ซึ่งนับว่าเป็นตัวช่วยที่ดีในการทำความสะอาดช่องปาก และสามารถใช้ควบคู่กันได้อย่างต่อเนื่องหากไม่มีอาการเจ็บปวดแล้ว เพื่อรักษาความสะอาดนอกเหนือจากการแปรงฟัน 

 

ใช้ขี้ผึ้งแปะบริเวณเหล็กจัดฟัน หลังจากใส่เหล็กจัดฟันแล้ว คุณหมอจะให้ขี้ผึ้งมาด้วย หากรู้สึกว่าเหล็กคมและบาดปาก ให้ใช้ขี้ผึ้งแปะปลายเหล็กหรือแบร็คเก็ตที่คม เพื่อป้องการบาดแผลจากเหล็กหรือการเกิดแผลร้อนใน

-ทานยาแก้ปวด   หากมีอาการปวดมาก ให้ทานยาแก้ปวดจำพวกพาราเซตามอล เพื่อบรรเทาอาการปวด แต่ไม่ควรทานยาแก้ปวดต่อเนื่องนานเกิน 7 วัน เพราะจะทำให้มีผลเสียต่อกระเพาะอาหารได้

 

แต่ถ้าหากมีอาการเหงือกอักเสบ บวม และเป็นหนอง  โดยให้สังเกตอาการขั้นแรก อาจมีเลือดออกตามไรฟันในขณะแปรงฟัน หรือมี อาการปวดต่อเนื่องเกิน 1 – 2 สัปดาห์  แม้จะทานยาแก้ปวดภายใน 4 ชั่วโมงแล้วอาการปวดยังกลับมา และมีอาการปวดหัว ปวดหู ร่วมด้วย ต้องกลับไปให้พบคุณหมอเพื่อตรวจสอบอาการโดยด่วน

 

ทั้งนี้และทั้งนั้น การพบคุณหมออย่างสม่ำเสมอตามที่คุณหมอนัด ก็จะช่วยให้คุณหมอประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างท่วงที ดังนั้นเมื่อจัดฟันแล้ว ควรไปพบคุณหมอตามนัดนะคะ

 

สนใจปรึกษาเรื่องจัดฟัน หรือบริการทางทันตกรรมอื่นๆ มาปรึกษาฟรีได้ที่ The Tree Dental Clinic ทุกสาขานะคะ