5 เหตุผล ทำไมต้องใช้ “ไหมขัดฟัน”

หากพูด “ไหมขัดฟัน” หลายคนเข้าใจว่าเอาไว้ใช้เมื่อมีเศษอาหารติดฟัน หรือใช้แทนไม้จิ้มฟัน เพื่อป้องกันฟันห่างเท่านั้น แต่อันที่จริงแล้วยังมีเหตุผลอีกหลายข้อที่อยากแนะนำไหมขัดฟันให้ รู้จักในฐานะ “อุปกรณ์ทำความสะอาดฟัน” เช่นเดียวกับแปรงสีฟัน หรือน้ำยาบ้วนปาก

ไหมขัดฟัน คืออะไร?

ไหมขัดฟัน (Dental floss) เป็นนวัตกรรมทางทันตกรรมที่ผลิตขึ้นเพื่อช่วยขจัดเศษอาหาร หรือ คราบแบคทีเรียที่ติดอยู่ตามซอกฟัน ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงในการขจัดเศษอาหารเฉพาะจุดได้เป็น อย่างดี สมัยก่อนไหมขัดฟันถูกผลิตขึ้นจากวัสดุเส้นใยไหมบิดรวมกันเป็นเส้นยาว และเคลือบขี้ ผึ้ง แต่หลังช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้มีการเปลี่ยนวัสดุเป็นไนลอน ทำให้ใช้ได้สะดวกมากยิ่ง ขึ้น ปัจจุบันไหมขัดฟันแบ่งเป็น 2 ประเภทจากวัสดุที่ผลิต คือเส้นใยไนลอน และพลาสติกเส้นใย เดี่ยว ที่ถูกคิดขึ้นเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มความเหนียว น้ำหนักเบา ไม่ขาดง่าย และมีทั้งชนิด เคลือบขี้ผึ้ง หรือแต่งกลิ่นเพิ่มอีกด้วย

5 เหตุผล ทำไมต้องใช้ ไหมขัดฟัน

  1. ไหมขัดฟัน สามารถนำเศษอาหารที่ติดฟันออกได้มากกว่าการแปรงฟัน

หากเราทราบว่ามีเศษอาหารติดอยู่ที่ฟันซี่ไหน แทนที่จะใช้แปรงสีฟันแปรงย้ำๆ บริเวณนั้น จนกว่าเศษอาหารจะหลุด (หรืออาจจะหลุดออกแค่บางส่วน) หรือใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มตรงบริเวณซอก ฟันนั้นๆ เปลี่ยนมาใช้ไหมขัดฟันจะทำให้เราสามารถเอาเศษอาหารออกได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ตรงจุด ลดอาการบาดเจ็บจากการใช้ไม้จิ้มฟัน และไม่เสี่ยงต่ออาการฟันห่าง ที่อาจเป็นจุดที่เศษ อาหารเข้าไปติดซอกฟันได้มากขึ้นในอนาคต

  1. ลดปัญหากลิ่นปากได้จากต้นเหตุ

หลายครั้งกลิ่นปากของเราไม่ได้มาจากฟัน หรือลิ้น แต่มาจากเศษอาหารที่ติดอยู่ในซอกฟันที่เรา อาจไม่ทันสังเกต หรือไม่รู้สึกตัวว่ามีเศษอาหารติดอยู่ที่ซอกฟัน ดังนั้นการใช้ไหมขัดฟันหลังทาน อาหาร หรือหลังแปรงฟัน จะช่วยกำจัดเศษอาหารออกไปจากซอกฟันได้มากขึ้น จึงลดความ เสี่ยงในการเกิดกลิ่นปากได้ด้วยนั่นเอง

  1. ป้องกันโรคที่เกี่ยวกับเหงือกและฟัน

การทำความสะอาดลึกถึงซอกเหงือกซอกฟันด้วยไหมขัดฟัน ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรค ฟันผุ ฟันโยก โรครำมะนาด หรือปริทนต์ เหงือกบวม เหงือกร่น เหงือกอักเสบ และโรคอื่นๆ ที่ เกี่ยวข้องกับเหงือก และฟัน เพราะการทำความสะอาดที่ดี จะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคที่ เกิดจากการสะสมของเศษอาหาร และแบคทีเรียได้ นอกจากนี้ยังลดความเสี่ยงในการเกิดหินปูน ที่เป็นต้นเหตุของการสูญเสียฟัน กลิ่นปากที่ไม่พึงประสงค์ และนำมาซึ่งการใส่ฟันปลอมใน อนาคตได้

  1. สุขภาพแข็งแรงขึ้น อายุยืนขึ้น

Thomas Perls แห่ง Boston University ผู้คิดค้น เครื่องมือคำนวณ “อายุคาดเฉลี่ย” จากปัจจัย ต่างๆ ในชีวิต ระบุว่า การใช้ไหมขัดฟัน ช่วยทำให้สุขภาพโดยรวมของเราแข็งแรง และช่วยยืด อายุขัยของเราให้ยาวนานขึ้น เพราะการใช้ไหมขัดฟันช่วยให้เหงือกและฟันแข็งแรง ซึ่งเป็นหนึ่ง ในปัจจัยที่ทำให้คุณภาพชีวิตโดยรวมของเราเป็นไปได้ด้วยดี ทานอาหารที่มีประโยชน์ได้เต็มที่

นอกจากนี้ Dr. Roizen ผู้เขียนหนังสือ Real Age ยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า คนที่ใช้ไหมขัดฟันเป็น ประจำหลังรับประทานอาหาร และไม่สูบบุหรี่ จะทำให้มีอายุยืนขึ้น 5 ปีเลยทีเดียว

  1. ไม่ต้องเสียเงินก้อนโตในการรักษาฟัน

“กันไว้ดีกว่าแก้” คำนี้เหมาะกับเหตุข้อ 5 มาก เพราะหากคุณจะต้องใช้บริการทันตกรรมเหล่านี้ อุดฟัน ซ่อมรากฟัน หรือใส่รากฟันเทียม ก็คงจะต้องเสียค่าบริการมากอยู่ ลำพังประกันสังคม หรือประกันบริษัทก็คงไม่อาจครอบคลุมค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้ ดังนั้นหากใช้ไหมขัดฟันเป็น ประจำจนมีฟันที่สะอาดอยู่เสมอ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะต้องจ่ายเงินก้อนโตออกไป

วิธีเลือกไหมขัดฟัน

ไหมขัดฟันที่เคลือบ และไม่เคลือบขี้ผึ้ง มีประสิทธิภาพในการกำจัดเศษอาหารได้ใกล้เคียง เพียงแต่ชนิดที่เคลือบขี้ผึ้งอาจทำให้การซอกซอนเข้าซอกฟันทำได้ง่าย และลื่นกว่า และไหมขัดฟันชนิดไม่เคลือบขี้ผึ้งอาจจะมีผิวสัมผัสที่คมกว่า ช่วยขจัดคราบหินปูนที่เกิดใหม่ออกได้ง่ายกว่าเล็กน้อย การเลือกไหมขัดฟันที่ให้ประสิทธิภาพในการกำจัดเศษอาหารได้ดี และสะดวกที่สุด คือการเลือกไหมขัดฟันที่มีลักษณะเส้นเล็ก แบน แผ่ออกได้เมื่อผ่านซอกฟัน มีความเหนียวไม่ขาดง่าย และไหมไม่คมเกินไปจนทำให้เหงือกเป็นแผล ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิธีใช้ของเราด้วยว่าถูกต้องหรือไม่

วิธีใช้ไหมขัดฟันที่ถูกต้อง

  • ดึงไหมขัดฟันออกมาพันที่ปลายนิ้วกลางที่มือทั้งสองข้างให้แน่นพอที่จะไม่หลุดง่ายๆ (อย่า ดึงไหมขัดฟันออกมาสั้น หรือพันรอบนิ้วน้อยจนเกินไป) ให้ความยาวของไหมขัดฟันระหว่าง นิ้วทั้งสองยิ้วอยู่ราวๆ 2-3 เซนติเมตร
  • ค่อยๆ สอด หรือดันไหมขัดฟันเข้าไปในซอกฟัน โดยใช้นิ้วกลาง นิ้วชี้ และนิ้วโป้งคอยช่วย บังคับทิศทางของไหมขัดฟัน จะเลือกฟันซี่ไหนก่อนก็ได้ (แต่แนะนำให้เลือกฟันกรามซี่ที่ลึก ที่สุดก่อน) จากนั้นขยับไหมขัดฟันขึ้นลง และขยับเป็นรูปตัว C บ้าง เมื่ออยู่ในตำแหน่งที่ ใกล้กับเหงือก แต่อย่าออกแรงกดไหมขัดฟันกับเหงือกมากจนเกินไป อาจทำให้บาดเจ็บ เลือดไหลได้ (ครั้งแรกๆ ที่ใช้ไหมขัดฟันอาจมีเลือดออกได้บ้างเล็กน้อย ไม่ต้องตกใจ หาก ใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำจะช่วยให้เหงือกแข็งแรงมากพอที่จะทำให้เลือดไม่ไหลได้)
  • ใช้ไหมขัดฟันให้ครบทุกซี่ ก่อนหรือหลังการแปรงฟัน อาจจะเริ่มจากซี่ในสุดด้านขวาไปซ้าย จากฟันบนไปฟันล่างก็ได้
  • ไหมขัดฟันที่ใช้แล้ว ควรทิ้งทันที ห้ามนำกลับมาใช้ซ้ำ เพราะอาจเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อ แบคทีเรียได้
  • บ้วนปากด้วยน้ำสะอาดหลังการใช้ไหมขัดฟัน
  • หมั่นใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำจนชิน เพื่อสุขภาพอนามัยของฟัน และเหงือกที่ดีขึ้น หากใช้ ไหมขัดฟันแล้วมีอาการเจ็บเหงือก หรือมีเลือดไหลทุกครั้งไม่ยอมหาย ควรปรึกษา ทันตแพทย์

แม้ว่าจะดูแลสุขภาพของฟันเป็นอย่างดีแล้ว ก็อย่าลืมพบทันตแพทย์ทุกๆ 3-6 เดือน เพื่อตรวจ เช็กสุขภาพของฟันอย่างละเอียด ก่อนที่จะต้องสูญเสียฟันไปตลอดกาล ปรึกษาทันตแพทย์ได้ที่ ศูนย์ทันตกรรมในโรงพยาบาล หรือเข้ารับการตรวจสุขภาพฟันฟรีได้ที่คลินิกทันตกรรมทั่ว ประเทศ (อาจมีค่าใช้จ่ายในบางแห่ง กรุณาสอบถามทางคลินิกได้โดยตรง) ขอบคุณข้อมูลจาก: พบแพทย์ ,เฟซบุ๊คเพจ ฟันดีดี

ภาพ: freepik