ฟันปลอมมีกี่แบบ เลือกแบบไหนดี?

ก่อนที่จะไปทำความรู้จักกับฟันปลอมแต่ละแบบ เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าฟันปลอมคืออะไร

ฟันปลอม คือ ฟันสังเคราะห์ที่นำมาใช้เพื่อทดแทนฟันธรรมชาติที่สูญเสียไปทั้งจากอายุขัยของฟันที่หมดลงในบางรายของผู้ป่วย หรือจากอุบัติเหตุ  โดยมีวัสดุหลากหลายชนิด ที่สามารถนำมาผลิตเป็นฟันปลอมได้ เช่น พลาสติก เซรามิค หรือโลหะ เป็นต้น ซึ่งวัสดุแต่ละประเภท ก็จะมีจุดเด่นจุดด้อยแตกต่างกันไป

เมื่อมีการสูญเสียฟันแท้ไป และไม่มีโอกาสที่จะมีซี่ฟันใหม่งอกขึ้นมาอีก การใส่ฟันปลอมไม่ใช่เพียงเพราะเรื่องความสวยงามของช่องปากเท่านั้น เพราะหากไม่ใส่ฟันปลอม หรือฟันเทียม อาจส่งปัญหาเรื่องการล้มเอียงของฟันข้างเคียง และการยื่นยาวของฟันคู่สบ จะมีปัญหาข้อต่อขากรรไกร หรือหากฟันที่สูญเสียไปเป็นฟันหน้า ก็อาจส่งผลถึงการออกเสียงที่ไม่ชัดได้ด้วย

ฟันปลอมมีกี่แบบ

โดยทั่วไป จะสามารถแบ่งประเภทของฟันปลอม ออกได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ ฟันปลอมแบบถอดได้บางส่วน , ฟันปลอมแบบถอดได้ทั้งปาก และ ฟันปลอมแบบติดแน่น

1. ฟันปลอมแบบถอดได้บางส่วน ใช้สำหรับคนที่ยังมีฟันจริงหลงเหลืออยู่ในช่องปาก โดยโครงฟันปลอมสามารถแบ่งออกได้ 4 ประเภท ดังนี้

ฟันปลอมฐานพลาสติก เป็นฟันปลอม ที่ทำได้ง่ายที่สุด มีลักษณะเป็นฟันปลอมพลาสติกเป็นซี่ๆ ยึดอยู่กับฐานฟันปลอมที่ทำจากอะคริลิกสีชมพู ตกแต่งให้ดูคล้ายคลึงกับเหงือกธรรมชาติ เหมาะสำหรับเป็นฟันปลอมชั่วคราว หรือผู้ป่วยที่มีฟันหายไปไม่มาก ซึ่งฐานพลาสติกจะค่อนข้างมีความหนา สำหรับผู้ใช้งานที่ยังไม่คุ้นชินในช่วงแรกอาจเกิดความรำคาญบ้าง  แต่เมื่อใช้งานไปสักพักก็จะเริ่มปรับตัวได้

1.2 ฟันปลอมฐานยืดหยุ่น หรือเรียกอีกชื่อว่า ฟันปลอม ถอดได้ ฐานพลาสติกยืดหยุ่น เป็น ฟันปลอม ที่มีลักษณะคล้ายกับฟันปลอมฐานพลาสติก แต่ในส่วนบริเวณฐานฟันปลอม แทนที่จะทำด้วยอะคริลิกแข็ง จะทำด้วยวัสดุพลาสติกที่มีความยืดหยุ่นแทน โดยมาก จะใช้ในกรณีที่ฟันหายไปจำนวนน้อยๆเช่น 1หรือ2ซี่ แต่ในบางกรณี อาจใช้ในผู้ที่มีฟันหายไปมากกว่านั้นก็เป็นได้

1.3 ฟันปลอมฐานโลหะ มีความแข็งแรงที่สุด ทนทาน ใช้เคี้ยวอาหารได้ดี ทั้งยังยึดเกาะฟันได้ดี ซึ่งสามารถใช้งานได้นาน เป็นฟันปลอมที่มีลักษณะคล้ายกับฟันปลอมฐานพลาสติก แต่จะเปลี่ยนในส่วนบริเวณฐาน เป็นโครงโลหะแทน และจะมีอะคริลิกสีชมพูแปะอยู่บางส่วน โดยซี่ของฟันปลอม จะเป็นพลาสติกเช่นเดียวกันกับฟันปลอมฐานพลาสติก

1.4 ฟันปลอมฐานโพลิเมอร์ (PEEK) มีความยืดหยุ่น แข็งแรง น้ำหนักเบา เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้โลหะ หรือไม่ต้องการให้เห็นสีโลหะ

2. ฟันปลอมแบบถอดได้ทั้งช่องปาก เหมาะสำหรับคนที่ต้องสูญเสียฟันแท้หมดทั้งปาก ทั้งฟันบนและล่าง โดยฟันปลอมเป็นฐานอะคริลิคสีเหมือนเหงือก ซึ่งทันตแพทย์จะพิมพ์ปากคนไข้ และนำไปทำฟันปลอมในห้องปฏิบัติการทันตกรรม ซึ่งการทำฟันปลอมชนิดนี้จะใช้เวลาระยะหนึ่งกว่าที่คนไข้จะได้รับฟันปลอมแต่ฟันปลอมจะแนบสนิทดีกับเหงือกในช่องปากคนไข้ ซึ่งคนไข้จะต้องทนไม่มีฟันเคี้ยวอาหารไปหลายเดือน แต่ถ้าไม่อยากรอก็สามารถทำฟันปลอมแบบ immediate dentist ได้ แต่ข้อเสีย คือ เป็นเพียงกระดูกที่รองรับฟันจะมีการเปลี่ยนแปลงและฟันปลอมหลวม และคนไข้ต้องมาทำฟันปลอมใหม่ในภายหลัง

3. ฟันปลอมแบบติดแน่นสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการถอดฟันปลอมเข้า-ออก มีความเป็นธรรมชาติเหมือนฟันจริง

แบ่งเป็น

3.1 สะพานฟัน เหมาะสำหรับตำแหน่งที่ไม่สามารถใส่รากฟันเทียมได้ เพราะใช้ฟันแท้ข้างเคียงเป็นหลักยึดโดยต้องกรอฟันธรรมชาติ

3.2 รากฟันเทียม คือ การฝังรากฟันเทียมลงไปตำแหน่งที่ฟันแท้ถูกถอนไป รอ 2-4 เดือน แล้วจะครอบฟันบนรากฟันเทียมซี่นั้นๆ มีความเป็นธรรมชาติ ลักษณะและการใช้งานเหมือนฟันจริง

เลือกใช้ฟันปลอมแบบไหนดี

ก่อนจะใส่ฟันปลอม จะต้องไปพบกับทันตแพทย์เพื่อตรวจสภาพช่องปากเสียก่อน เนื่องจากคนเราแต่ละคนก็เหมาะกับฟันปลอมแตกต่างกัน ซึ่งก็ควรเลือกให้เหมาะสมที่สุด โดยคุณจะต้องแจ้งเกี่ยวกับโรคประจำตัวโดยละเอียดให้ทันตแพทย์ได้รับรู้ เพื่อจะได้ประเมินและวางแผนการรักษาได้อย่างถูกต้อง เช่น หากยังมีฟันแท้ หรือต้องการใช้ฟันปลอมเพียงไม่กี่ซี่ หรือแนะนำให้ใช้รากฟันเทียม หรือฟันปลอมแบบถอดได้บางส่วน และหากคนไข้ต้องการทำฟันปลอมเพียง 1-2 ซี่เท่านั้น ก็สามารถทำฟันปลอมฐานยืดหยุ่น เพื่อการใช้งานที่สะดวกสบายมากขึ้น หรือหากเหลือฟันในช่องปากเพียงไม่กี่ซี่ หรือฟันที่เหลืออยู่ไม่แข็งแรงอีกต่อไปแล้ว แนะนำให้ถอนฟันออก และเลือกใช้ฟันปลอมแบบถอดได้ทั้งช่องปาก หรือจะเป็นฟันปลอมถอดได้ทั้งปากที่ยึดอยู่บนรากฟันเทียม เพื่อการใช้งานที่ดีขึ้น