
COVID-19 ส่งผลต่อสุขภาพช่องปากคนไทยอย่างไร? งายวิจัยนี้มีคำตอบ
จากการวิจัยเปิดเผยว่า การระบาดของ โรคโควิด-19 ส่งผลต่อพฤติกรรมการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้บริโภคอย่างชัดเจน โควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคในประเทศไทยเกิดความลังเลที่จะไปพบทันตแพทย์

โดย 67% กังวลกับการไปพบทันตแพทย์ด้วยตนเอง เนื่องจากเหตุผลที่ต้องการยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19
34% ของผู้ตอบแบบสอบถามในประเทศไทยลดหรือหยุดการไปพบทันตแพทย์ในทันที ในบรรดาผู้บริโภคที่อ้างว่ารู้สึกกังวลหรือค่อนข้างกังวลที่จะไปพบทันตแพทย์ด้วยตนเอง
39% ระบุว่า ด้วยจำนวนคนในคลินิกทันตกรรมที่มากเกินไป จึงเกรงว่าจะไม่ได้ปฏิบัติตนตามมาตรการในการเว้นระยะห่างทางสังคมได้
45% กล่าวว่า กลัวจะติดเชื้อโควิด -19 จากการสัมผัสอุปกรณ์ทันตกรรม และ 36% ระบุว่า ไม่มั่นใจว่าคลินิกทันตกรรมได้มีการฆ่าเชื้อและทำความสะอาดอย่างทั่วถึงและเรียบร้อยดีแล้วหรือไม่
ผลจากการสำรวจผู้บริโภคในประเทศไทย มีดังนี้
- ผู้บริโภคในประเทศไทยส่วนใหญ่เชื่อว่าการมีปัญหาสุขภาพช่องปาก อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ตามมา แต่ยังไม่มีแนวทางดีพอในการจัดการสุขภาพช่องปากให้ดีขึ้น
- การแพร่ระบาดของโรคของโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคในประเทศไทยเปลี่ยนแนวทางการดำเนินชีวิต มาตรการล็อคดาวน์ในหลายพื้นที่ทำให้ผู้คนใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการบังคับให้ต้องทำงานจากที่บ้าน
จากผลการศึกษาจึงสังเกตเห็นได้ว่า การเปลี่ยนแปลงกิจวัตรประจำวันและพฤติกรรมของผู้บริโภคอาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพช่องปากโดยรวมของพวกเขา
ดังนั้นสิ่งสำคัญในการป้องกันโรคและส่งเสริมสุขภาพช่องปากที่ดี คือการพบทันตแพทย์เพื่อรับการตรวจหรือรักษาเป็นประจำ และการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากอย่างดีเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง

การวิจัย : โดยจีเอสเค คอนซูเมอร์ เฮลธ์แคร์ ซึ่งจัดทำโดยบริษัทสำรวจและวิจัยตลาด อิปซอส ได้มีการสำรวจความคิดเห็นออนไลน์กับผู้บริโภคจำนวน 4,500 คน ซึ่งมีอายุมากกว่า 18 ปีจาก 5 ประเทศในยุโรป (ฝรั่งเศส เยอรมนี สหราชอาณาจักร สเปนและรัสเซีย) และ 4 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย)