
ฟอกสีฟันแบบไหน ปลอดภัยและขาวจริง
ใครที่มีปัญหาฟันเหลือง ฟันไม่ขาว จนทำให้หมดความมั่นใจ ตอนนี้ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะการฟอกสีฟัน ช่วยให้ฟันคุณกลับมาขาวขึ้นได้อย่างแน่นอน เรามาดูกันว่าการฟอกสีฟัน มีทั้งหมดกี่รูปแบบ แบบไหนปลอดภัย และเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนที่สุด พร้อมบอกข้อเสียของการฟอกสีฟัน ถ้าพร้อมแล้ว เรามาเริ่มกันเลย
ทำไมต้องฟอกสีฟัน ?
วัตถุประสงค์ของการฟอกสีฟัน คือ ทำให้ฟันที่มีสีคล้ำขาวขึ้น ซึ่งสาเหตุของฟันคล้ำ ฟันเหลือง มาจาก สีอาหาร เครื่องดื่ม รวมถึงการสูบบุหรี่ รวมไปถึงการสะสมของคราบแบคทีเรียและหินปูน จนทำให้สีฟันดูหมอง ไม่สดใส การฟอกสีฟันช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพ ให้ดูโดดเด่น น่าสนใจมากขึ้น ช่วยคืนรอยยิ้มที่สดใสให้แก่คุณ เรียกคืนความมั่นใจให้กลับคืนมา การฟอกสีฟันจึงถือว่าเป็นการรักษาที่ปลอดภัย และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
เทียบกันชัด ๆ ฟอกสีฟัน แบบไหนดีที่สุด
การฟอกสีฟันในปัจจุบันมีทั้งหมด 3 รูปแบบ ซึ่งแต่ละรูปแบบมีข้อดีแตกต่างกันไป ดังนี้
- การฟอกสีฟันด้วยแสงเย็น เป็นการใช้แสง LED ฉายลงบนผิวฟัน วิธีนี้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก ไม่เจ็บ ไม่เป็นอันตรายต่อเหงือก อยู่ได้นานสูงสุดถึง 3 ปี
- การฟอกสีฟันด้วยระบบซูม เป็นเทคนิคการฟอกสีฟันด้วยเลเซอร์ระดับโลก ใช้เวลาฟอกสีฟัน 1 ชั่วโมง เห็นผลชัดเจน 3-8 ระดับ
- การฟอกสีฟันเองที่บ้าน สีฟันอยู่ได้นานถึง 3 ปี สามารถเพิ่มความขาวได้ ในกรณีที่เคยฟอกสีฟันที่คลินิกมาก่อน

ข้อเสียของการฟอกสีฟัน
การฟอกสีฟันอาจไม่เห็นผลตามที่ต้องการในบางราย เนื่องจากทันตแพทย์ไม่สามารถบอกระดับความขาวของฟันที่แน่ชัดได้ เพราะการตอบสนองของปฏิกิริยาสารฟอกฟันแต่ละรายไม่เท่ากัน การฟอกสีฟันยังมีข้อเสียด้านใดอีกบ้าง มาดูกัน
- อาจมีอาการเสียวฟัน เนื่องจากน้ำยาฟอกสีฟันมีความเข้มข้นสูง
- ในกรณีที่ฟอกสีฟันเองที่บ้าน ถ้าไม่มีความชำนาญมากพอ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเหงือกได้
- การฟอกสีฟันมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
จะเห็นได้ว่าการฟอกสีฟัน หากทำอย่างถูกวิธีช่วยให้ผู้ที่มีปัญหา ฟันเหลือง หมองคล้ำ ให้กลับมามีฟันขาวขึ้นได้ ทั้งนี้การฟอกสีฟันควรทำกับทันตแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญ มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ หากคนไข้อยากฟอกสีฟันอย่างปลอดภัย แนะนำให้เข้ารับการรักษากับ THE TREE DENTAL CLINIC คลินิกทำฟัน ที่เพียบพร้อมด้วยทีมทันตแพทย์และทีมงานมืออาชีพ ยินดีดูแลลูกค้าทุกคนด้วยความเต็มใจ